Love pill - นิยาย Love pill : Dek-D.com - Writer
×

    Love pill

    รักฉบับ Love Love กับสองเซลล์แมนหนุ่ม

    ผู้เข้าชมรวม

    166

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    166

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  9 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ธ.ค. 58 / 21:39 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                                                

    Love pill

     

    เสียงฝีเท้าที่วิ่งผ่านระเบียงภายในโรงพยาบาลXXXX ทำให้บรรดาคนไข้ ญาติผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล หันมามองกันเป็นแถว

    อย่าวิ่งในโรงพยาบาลซิค่ะ พยาบาลรุ่นป้า ตะโกนเตือนเจ้าของฝีเท้า แต่ก็หาได้ลดความเร็วลงไม่

     

    ขอโทษจริง ๆ ครับ ผมรีบ สายแล้ว ๆ

     

    ปัญญา หรือ เป้ วิ่งไม่คิดชีวิต เพราะเขานัดฝ่ายจัดซื้อของทางโรงพยาบาลไว้ แต่เขาดันตื่นสาย เนี๊ยะก็เลยมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว คุณเบญจมาส ฝ่ายจัดซื้อก็เฮี้ยบซะ ป่านนี้ถ้าไม่โกรธอยู่ก็คงไม่รอเขาแล้วมั้ง แต่ยังไงก็ต้องไปดูก่อน อ่า ถึงแล้ว หยุดหอบหายใจเข้าปอดเรียกพลังเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเลื่อนบานประตูฝ่ายจัดซื้อ

     

    ขอโทษที่มาสายครับคุณเบญจมาส

    ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ต้องชะงัก อ่ะ ไอ้หมอนี่มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงว่ะ

     

    ไม่ต้องรีบก็ได้จ๊ะ คุณปัญญาคุณเบญจมาส หันมามองด้วยสีหน้าระอา

    เอ่อ ...ครับเดินตัวลีบ ๆ เข้ามายืนข้าง ๆ แต่หันไปมองหน้าไอ้คนที่นั่งอยู่ต่อหน้าคุณเบญจมาส ด้วยสายตาพิฆาต

     

    ใช่ครับพี่เป้ ไม่ต้องรีบแล้วครับ คุณเบญจมาส เพิ่งเซ็นต์รับยาของบริษัทผมแล้วครับไอ้หมอนั่นไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ซ้ำยังส่งยิ้มการค้ามากวนตีนอีก

     

    ไอ้เชี่ย ตอนนี้มีแต่คำนี้เด้งขึ้นมาในหัว ในขณะที่ผมมองหนังสือสัญญาในมือคุณเบญจมาสอย่างเซ็ง ๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไอ้คิด มึงแย่งลูกค้ากูอีกแล้วนะพอพ้นออกมาจากห้องได้ ผมก็สาดคำหยาบใส่ไอ้แมวขโมยทันที

    แย่ง? ไม่นะครับ เค้ายังไม่เซ็นต์สัญญากับพี่เป้เลย จะหาว่าผมแย่งพี่ได้ยังไงแล้วดูมันตอบเซ่ กลัวที่ใหน

     

    สวัสดีครับ แนะนำตัวนิ๊ดนึง ผมชื่อ ปัญญา ลีละวิทย์ครับ อายุ 28 ปี ครับ อะไรนะ ถามว่าหน้าตาผมเป็นยังไงงั้นเหรอ?.... ก็เห็นมีแต่คนบอกว่า หน้าตาดี (ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ) ฮะ ๆ ๆ จริง ๆ ก็ เพราะมีเชี้อจีน เลยขาว ๆ หน้าตาก็ตี๋ ๆ ตาชั้นเดียวดีว่าไม่ตี่เท่านั้นเอง แต่เรียกผมว่าเป้ ดีกว่าครับ ง่ายดี ผมทำงานเป็นเซลขายเวชภัณฑ์ตามโรงพยาบาล และคลินิกทั่ว ๆ ไป ของบริษัทSSSSS 

     

    ส่วนไอ้คนที่มันเดินตามมากวนประสาทผมต่อที่ทางเดินระเบียงโรงพยาบาลเนี๊ยะ ชื่อ ไอ้คิด ครับ ผมไม่รู้ขื่อจริงมันหรอก มันก็เป็นเซลบริษัท JJJJJJJJ คู่แข่งกันกับบริษัทผม อ้อ อย่าพึ่งคิดว่าผมรูปร่างแบบบาง อ้อนแอ้น น่าทะนุถนอมนะครับ ไม่ใช่เลย ผมกับไอ้คิด ก็รูปร่างพอ ๆ กันนั่นแหล่ะ ผมว่าขาวแล้ว ส่วนไอ้บ้านี่มันก็ขาวกว่าอีก มันเป็นเด็กทางเหนืออะเจ้า

     

     

    แล้วก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกับมันมากนักหนา แค่ต้องทนเจอหน้ามันมาตลอด 2 ปีนี้ มันอายุอ่อนกว่าผม 3 ปี ที่เจอกันบ่อย เพราะเราส่งของ อยู่ในแถบจังหวัดเดียวกัน ขนาดย้ายไปอีกจังหวัด แม่งยังเสือกเจอมันอีก เวรจริง ๆ

     

    โห้ย ไม่เอาหน่าพี่เป้ อย่าเครียดดิ เดี๊ยวแก่ไว ไปกินข้าวเที่ยงกันไป ผมเลี้ยงเองไอ้คนไม่รู้สึกรู้สา ว่ากูเหม็นขี้หน้ามึง ยังจะตามมาตอแย แถมตีซี้เอาแขนมาพาดบ่ากูอีก รำคาญเลยปัดออก

     

    ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังนะ ไม่ใช่เพื่อนเล่นโว้ย ขอบอก กูยังมีนัดที่อื่นอีก เฮ้ย กูต้องไปแล้ว เดี๋ยวสายอีกรีบเดิน ๆ ออกไปที่ที่จอดรถ เพราะว่ามันจะหมดพักเที่ยงแล้ว กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หมาคาบไปแดกอีก

     

    วันนี้ พี่พักที่นี่ใช่มั๊ยได้ยินเสียงมันตะโกนไล่หลังมา

    ใช่ ที่เดิมนั่นแหล่ะ ต้องโทรไปจองล่วงหน้าว่ะ หน้านี้มีแขกพักเยอะด้วยมาถึงรถพอดี เอากระเป๋าโยน ๆ ไว้แค็ปหลัง

     

    งั้นก็ขับรถดี ๆ นะครับ โชคดีนะครับ ไว้เจอกันที่โรงแรมนะพี่เป้ไอ้คิด มันยังตะโกนโบกไม้โบกมือ ขอให้ป้าพยาบาลออกมาด่ามึง เสียงดัง เชี่ย นี่มันในโรงพยาบาลนะเฟ้ย

     

    เฮ๊ย กูคงโชคดีแน่ถ้าไม่ใช่เพราะมึงชอบมาจุ้นอยู่เรื่อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ได้แต่พูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหมุนพวงมาลัย พารถออกไปสู่ท้องถนน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กว่าจะส่งของเสร็จก็ดึกพอสมควร ผมเหนื่อยมากเลย อยากอาบน้ำเต็มที่แล้ว เลี้ยวรถเข้าที่จอดรถใต้ตึกโรงแรมที่มาพักประจำเมื่อมาส่งยาที่แถวนี้ พรุ่งนี้ร้านค้าหยุดงานประจำปี เลยต้องค้าง 2 คืนรอวันถัดไปถึงจะไปส่งของได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็เบิกค่าที่พักกับบริษัทอยู่แล้ว บิดตัวคลายความเมื่อยล้า เอี้ยวตัวหยิบกระเป๋าเสื้อผ้า ลงจากรถ แล้วเดินตรงไปที่บันไดทางเข้าไปที่ล๊อบบี้ หน้านี้คนมาเที่ยวเยอะครับ ดีว่าผมโทรมาจองก่อน ไม่มีปัญหาครับ ทันทีที่ถึงล๊อบบี้ ก็เห็นไอ้คิดยืนหน้าตึง ๆ อยู่ตรงหน้าน้องส้มรีเซฟชั่นคนสวยที่มีสีหน้าลำบากใจสุดฤทธิ์

     

     

    โหย พี่เป้ ขา มาซะที โทรไปก็ไม่ติดโทรศัพท์ยังอยู่ดีมั๊ยเนี๊ยะทันทีที่เห็นหน้าผม น้องส้มแทบจะถลาเข้ามากอด เฮ้ย เห็นงี้กูก็เลือกนะเว้ย (พี่นะพูดเล่น แต่ถ้าน้องจะเล่น พี่ก็เอาคร๊าบบบบ)

     

    ห๊า...อ่อ แบ็ตหมดน่ะ มีไรเหรอ ส้มก้มลงล้วงมือถือขึ้นมาดู จึงรู้ว่าหน้าจอมืดสนิท แบ็ตหมดไปแล้ว พอหันไปถามน้องส้ม ก็พบว่าน้องยกมือไหว้ท่วมหัว

     

    พี่เป้ ส้มขอโทษจริง ๆ นะค่ะ น้องที่เข้ามาทำงานใหม่มันสับสนอ่ะคะ หนูลงชื่อจองห้องให้พี่แล้ว แต่พอพี่คิด โทรมาจอง บอกว่าเป็นเซลขายยา น้องมันเลยนึกว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ส้มจองไว้ค่ะส้มพยายามอธิบาย ในขณะที่ไอ้คิดก็เริ่มหน้าบูด คาดว่ามันคงมารอนานแล้ว     

     

    เอ่อ ๆ ไม่เป็นไร แล้วไง..........................ห๊ะ ว่าไงนะเหนื่อยก็เหนื่อย อยากพักจะตาย ส้มมันจะพยายามอธิบายอะไรมากว้า เอ๊ะ ว่าแต่มันว่าอะไรนะ หันขวับเหมือนกับจะพึ่งจับประเด็นได้

     

    ส้มจะบอกว่า ตอนนี้ไม่มีห้องเหลือแล้ว เต็มจนแทบล้นเลยค่ะ พี่เป้ๆ ถือว่าช่วยหนูนะ พี่ให้พี่คิดพักด้วยนะ เดี๋ยวหนูลดค่าห้องให้อีก 30% เลย นะพี่นะ ฮือๆๆ ไม่งั้นพี่คิดกินหัวหนูแน่ ๆ เลยน้องส้มยกมือไหว้ขอร้อง น้ำตาซึม ก่อนจะถลามาเกาะแขนทำสายตาวิงวอน อย่างน่าสงสาร เฮ้อ ถึงจะไม่อยากจะแบ่งห้องให้ใคร แต่พี่มันก็แพ้น้ำตาคนสวยซะด้วย เลยเผลอตกปากไปไม่ทันคิด เห็นน้องส้มยิ้มแก้มแทบปริ ปากบอกขอบคุณ ๆๆ ไม่ขาด แต่ว่า...ไอ้คิด มึงจะยิ้มปากฉีกตามน้องส้มทำไมว่ะ.............

     

     

    ภายในห้องสี่เหลี่ยม ที่เปิดแอร์ได้ซักพักก็ทำให้อากาศเย็นฉ่ำไปทั่วห้อง มีเตียงใหญ่คิงไซส์ ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่ ไอ้คิดเดินเข้าไปวางกระเป๋าข้างเตียงฝั่งประตูห้อง ผมเลยเดินไปนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่างด้วยหน้าตาที่บูดสุด ๆ

     

    แทนไอ้คิดจากที่เห็นมันหน้าตึง ๆ เมื่อกี้ ตอนนี้ทำหน้าระรื่นเชียว แมร่งเป็นบ้าอะไรของมันว่ะ นั่น ผิวปากอารมณ์ดี กดเปิดทีวี แล้วหยิบรีโมท มากดๆๆ ดูช่องรายการต่างๆ เห็นแล้วหงุดหงิดโว้ย

     

    คืนนี้เค้ามีงานเทศกาลงานประจำปีที่วัดนี่นา ไปกันมั๊ยพี่หันมาถามหน้าตา สบายอารมณ์ มึงดูหน้ากูดิ๊ ว่ากูอยู่ในอารมณ์ใหน ไอ้เวร

     

    .......

     

    อาราย เงียบ...ไม่เอาหน่า หน้าตาก็ดี ทำหน้าหงิกๆ เดี๊ยวก็แก่เร็วหรอกไอ้คนไม่รู้สำนึก ยังตามมาก่อกวนไม่เลิก เดินมานั่งบนเตียง ทำหน้าล้อเลียน

     

    เรื่องของกูเซ็งหน้ามันเลยหันไปมองนอกหน้าต่างแทน

     

    เฮ๊ย พี่จะคิดอะไรมากว๊า คิดยังไงๆ ก็มีแต่ได้กำไร ค่าห้องเบิกมาเต็ม ๆ จ่ายแค่ 70% เอง แถมหารกันคนละครึ่งอีก คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับผมตกใจหมด อยู่ ๆ ไอ้คิดมันก็เด้งตัวขึ้นมา เอากำปั้นทุบมือดัง โป๊ะ

     

    ช่างหัวกูเหอะ เออ ก็ไม่เถียงล่ะว่ามันคุ้ม แต่แล้วไงว่ะ ก็กูอยากนอนคนเดียวนี่หว่า

     

    งั้นเดี๋ยวผมเลี้ยงมื้อค่ำ ตอบแทนที่ให้พักด้วยล่ะกัน อิ่มแล้วก็ไปเดิน ๆ ดูน้องหนูแถว ๆ นี้กันมั๊ยพี่ไอ้ความหน้าด้าน หน้าทนนี่ต้องยกให้มึงเลยไอ้คิด ขนาดกูไม่พูดไม่สนใจ แมร่งก็ยัง ตามรังควาญไม่เลิก เฮ้ยแต่ไอ้ประโยคสุดท้ายน่าสนใจวะ แต่ว่า

     

    ดูให้ได้ไรว่ะ พักอยุ่ด้วยกัน จะหิ้วขึ้นห้องก็ไม่สะดวกใช่ หิ้วขึ้นมาแล้วมีมึงอยู่ในห้องด้วยนี่นะ กูคงทำได้หรอก

     

    อารายกัน ต่างคนก็ต่างทำซิครับ พี่จะกลัวอะไร อาย หรือกลัวของไม่ขึ้นเหรอครับ ผมมียาดีนะไอ้นี่ มึงจะยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาทำไม

     

    ห่า ของมึงซิไม่ขึ้นแล้วเสือกมาดูถูก น้องชายกูอีก ไม่อยากคุย ของกูนะ โด่ดีทุกเช้าเว้ย

     

    ด่าไปก็เท่านั้น แมร่งหาได้สลดไม่ มันกลับหัวเราะร่วน เดินอาด ๆ ไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำดื่มมาปิดดื่มจากขวด ไปซะครึ่งขวด ก่อนหันมามองผม เชิงถามว่าผมจะอาบน้ำก่อนมั๊ย ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากอาบน้ำเว๊ย มันเลยเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไป

     

    (ห่านี่ อารมณ์ดีนะมึง ถ้าต้องใช้ยาล่ะก็ ของบริษัทกูก็มี แถมยังคุณภาพดีกว่าอีกโว๊ย) ชั่ววูบหนึ่งความคิดเลว ๆ ก็แว๊บเข้ามา................ มึงเสร็จกูแน่ ไอ้คิด ว่าแล้วก็คว้ากระเป๋ายาตัวอย่างมาเปิดค้นหา แล้วหยิบยาขึ้นมา 1 ซอง จัดแจงฉีกซอง เทใส่ขวดน้ำที่ไอ้คิด มันกินเหลือครึ่งขวด ไม่ต้องเขย่า ยาก็ละลายหายไปในพริบตา น้ำยังดูใส ไร้ตะกอน (ก๊ากๆๆ คอยดูนะมึง ได้ดิ้นทุรนทุรายแน่)

     

     

     

    อาบน้ำนานแมร่ง มึงจะขัดให้ใสไปถึงใหนว่ะไอ้คิด ง่วงชิบหายเลย ว่าแล้วก็เอนหลังกะว่าแค่นอนเล่น ๆ แต่ตัดหลับไปตอนใหนก็ไม่รู้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อ้าว พี่เป้ หลับซะแล้ว พี่เป้ ๆ ตื่น ๆ ไปอาบน้ำคนกำลังนอนสบายก็มีมือมาเขย่า ๆ สลึมสลือลืมตามาก็เห็นไอ้คิด มันยื่นหน้าเข้ามา

     

    ห๊ะ หา เออ ๆๆ ไปอาบน้ำตกใจหมด เห็นหน้ามันใกล้นิดเดียว เด้งตัวขึ้นมาไอ้นี่มึงจะโค้งตัวมาทำไมว่ะ จึงผลักไหล่มันออกให้พ้นทาง แล้วรีบเดินไปหยิบผ้าขนหนู แล้วนี่อะไรว่ะ หัวใจกูเต้นแปลก ๆ แมร่ง กูคงไม่ได้เป็นโรคอะไรนะโว้ย

     

    รีบ ๆ ไปอาบเลยพี่ เดี๋ยวได้ไปหาอะไรกินกันมันเร่งกูยิ๊กๆๆๆ แต่ตัวมันก็ยังเดินเอ่อละเหย พันแค่ผ้าขนหนู เอิ่ม แมร่ง หุ่นดีว่ะ ซิกแพ็ค ชัดเจนมาก ของกูรวมกันเป็น วันแพ็คเรียบร้อยแล้ว  

     

    เป้ คว้าอุปกรณ์อาบน้ำจะเดินเข้าห้องน้ำ ก็หยุดดื่มน้ำจากแก้วที่เททิ้งไว้ไม่ให้เย็นเกินไป แต่ดันหลับไปก่อนจะได้ดื่ม และชำเลืองมอง ก็เห็นว่า ไอ้คิดมันยกขวดน้ำที่เหลือขึ้นดื่มจนหมด เป้ แสยะยิ้ม ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

     

    อ่า ได้อาบน้ำอุ่น หลังจากทำงานมาเหนื่อย ๆ นี่เป็นอะไรที่สุดยอดจริง ๆ เดี๋ยวอาบเสร็จแล้วออกไปหาเบียร์เย็น ๆ อูยยยยยยย แค่คิดก็เปรี้ยวปาก

     

    คิกๆๆๆ ไอ้คิดมรึง ถ้าไม่กราบตีนกูขอยาแก้ กูจะแกล้งทรมานมึงให้ลงแดงเลย มึงจะได้รู้ว่ายาปลุกบริษัทกู ไม่เป็นสองรองใครแต่พอคิดไปถึงยาที่ใส่ลงไปในน้ำให้ไอ้คิดมันดื่มก็สะใจ เล่นกะใครไม่เล่น แมร่ง ดูดิมันจะทำหน้ายังไงเวลาอยากจนหน้ามืด ฮ่าๆๆๆ

     

     

    เอ๋..........ว่าแต่ไมวันนี้น้ำมันร้อนไปเปล่าว่ะเนี๊ยะ ยิ่งอาบยิ่งร้อนว่ะ

     

     

     

    เอ่อ.......กูว่ามันแปลก ๆ ว่ะ รู้สึกคอแห้ง จนต้องกลืนน้ำลาย ท้องน้อยก็รู้สึกวูบไหว มันเหมือนอาการเวลาที่............มีความต้องการเลย ............................................ไอ้ชิบหาย เฮ้ย กูคงไม่ได้ซื่อบื้อวางยาตัวเองโดยไม่รู้ตัวหรอกนะเว๊ย........ ไม่ๆ ไม่ใช่แน่ กูดื่มน้ำของกูเท่านั้นนี่นา เมื่อกี้ก่อนเข้ามาอาบน้ำกูก็แค่ดื่มน้ำในแก้วที่เททิ้งไว้ให้หายเย็นก่อนจะ..............หลับไป

     

     

     

     

    ไอ้คิด ไอ้เหี้ย มึงวางยากูเหรอว๊ะทันทีที่คิดได้ว่าถูกไอ้คิดมันวางยาใส่แก้วน้ำ ตอนกูหลับแน่ ๆ ก็ความผ้าขนหนูมาพันช่วงล่าง แล้วรีบเปิดประตูห้องน้ำ หมายจะด่ามันเต็มที่

     

     

    แต่แมร่ง เปิดไปก็เจอมันยืนหน้าเครียด ๆ เอาศอกข้างหนึ่งเท้าประตูห้องน้ำอยู่ก่อนแล้ว เห็นเส้นเลือดที่ขมับมันนูนขึ้นมาเลย มึงจะเครียดอะไรนักหนา ต้องกูซิวะที่ต้องเครียด

     

     

    เอา..ยาแก้มาเดี๋ยวนี้เลย..พี่เป้ ไม่งั้นพี่ลำบากแน่ มันกระชากแขนกู แรงจนกูทียังไม่ทันตั้งตัวดีเซไปชนกับตัวมัน ซึ่งมันยังไม่ใส่เสื้ออะไรเลย มีแค่ผ้าขนหนูพันช่วงล่างเหมือนตอนที่มันเดินออกมาจากในห้องน้ำ

     

    ดูเหมือนยาที่กูใส่ให้มันกิน ก็จะออกฤทธิ์แล้วเหมือนกัน กูเลยต้องพยายามทำหน้างง ๆ ซื่อ ๆ ประหนึ่งไม่รู้เรื่องอะไร เฮ๊ย มึงพูดอะไรของมึง

     

    ไม่ต้องมาทำ...มึนเลย..พี่เป้ เล่นไม่รู้เรื่อง มาวางยาผมทำไมพยายามจะสะบัดมือมันให้ปล่อย แต่แมร่ง แรงเยอะชิบ ไม่พอดูมันยังกดแรงนิ้วจนเจ็บไปหมด

     

    ยาอะไร ๆ ไม่มี๊เชื่อโบราณเว้ย ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เอ๊ย ไม่ใช่ ไม่มีหลักฐาน อย่าไปรับเว้ย

     

    แล้วนี่อะไร? มันลากผมเดินไปที่ถังขยะ เขี่ย ๆ ให้ดูซองยา หลักฐานมัดตัวดิ้นไม่หลุด มันก็ช่างไปรื้อได้ ซองที่ผมทิ้งไว้ในถังขยะ ขนาดซุกไว้ข้างล่างยังเสือกหาเจอนะมึง

     

    เออๆๆๆ กูวางยามึง แต่มึงก็วางยากูเหมือนกันไอ้คิด จนด้วยหลักฐาน ไม่รู้จะไปทางใหนเลยทำเป็นโมโห หาเรื่องมันกลับซะเลย ใช่ มึงก็วางยากูเหมือนกัน

     

    โอเค ๆ พี่ ผมผิด...ไปแล้ว เอายาแก้มาเร็วๆ จะ...ไม่ไหวแล้วเสียงมันดูอึดอัดๆ มันดูมีท่าทีอ่อนลง ยอมปล่อยมือ ทิ้งไว้แต่รอยนิ้วแดงเป็นปึ้น ก่อนจะยกมือสองข้างทำท่ายอมแพ้

     

    ไม ไม่เอายาบริษัทมึงว่ะ แกล้งถามไปงั้นแหล่ะ แอบไปรู้มาว่ามันยกตัวอย่างให้ลูกค้าคนล่าสุดไปเมื่อวาน

     

    โอ๊ย มันหมด..แล้วนะซิพี่ เพิ่งส่งให้..ลูกค้าไปเมื่อวาน รีบๆ เอา..มาเร็ว ๆ เดี๋ยวก็ทน..ไม่ไหวกันพอดีสะใจโว้ย ดูท่าทางมันคงจะทนแทบไม่ไหวแล้วจริง ๆ ยืนยังไม่ตรงเลย เออ ๆ แกล้งมันพอแล้ว อย่าว่าแต่มึงเลย กูก็ทำท่าจะแย่วะ รีบ ๆ รื้อในกระเป๋า เจอซองยาแก้ ที่ไม่ค่อยจะได้หยิบขึ้นมาบ่อย นอนอยู่ก้นกระเป๋า ส่วนใหญ่ลูกค้าขอตัวอย่างยาปลุกซะมากกว่า ก็รีบ ๆ หยิบซองใสขึ้นมา ...............................เหี้ยล่ะ.. เหลืออยู่เม็ดเดียว เบนสายตาจากถุงยา ไปที่หน้าไอ้คิด หน้ามันดูเครียดกว่าเก่า มันคงเห็นเหมือนกันว่ามียาอยู่แค่เม็ดเดียว ซึ่งหมายความว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอด

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น